สวัสดีครับ กลับมาพบกับบทความรีวิวโปรเจคเตอร์กันทุกวันศุกร์อีกเช่นเคยนะครับ วันนี้กระผมนาย Tofu อยู่กับโปรเจคเตอร์แอลอีดีแบบพกพาที่สามารถฉายภาพได้ 360 องศา มาพร้อมกับลำโพง harman/kardon และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง!! โดยไม่ต้องเสียบสายต่อปลั๊กไฟขณะใช้งาน พกพาสะดวก ขนาดเพียงเท่าฝ่ามือ ซึ่งนั่นก็คือ Viewsonic M1 นั่นเองครับ
Design
โดยตัวเครื่องของเจ้า Viewsonic M1 จะเป็นสีดำแบบ Black Metallic ตัดขอบเครื่องด้วยสีเทาเงิน ดูสวยงามและลงตัวแบบสุดๆ มีขนาด Dimensions 146 x 126 x40 mm (กว้าง x ยาว x สูง) มีน้ำหนักเพียง 0.75kg เท่านั้น!! และยังเป็นโปรเจคเตอร์ประเภท Ultra Portable ที่มีขนาดเพียงเท่าฝ่ามือ พกพาสะดวกสุดๆ ไปได้ทุกที่ ใช้ได้กับทุกสถานะการณ์ อีกทั้งยังได้รางวัลการออกแบบจากทาง iF Award Design อีกด้วยนะ
Soft Carrying Bag ที่แถมมาให้กับ Viewsonic M1 เนื้อผ้าจะเป็น สักหลาด อย่างดี ดูสวยงาม โดดเด่นต่างจากกระเป๋าโปรเจคเตอร์ทั่วไปๆ
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้ฉายคอนเทนต์ต่างๆได้นานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง โดยเราไม่ต้องวุ่นวายกับสายไฟที่พันกัน หรือตามหาปลั๊กไฟให้ยุ่งยาก และด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่องที่มากถึง 16GB เราสามารถ (สะบัดต่อไม่รอละนะ) ไปกับบทเพลงได้มากถึง 4,000 เพลง หรือ เก็บไฟล์ภาพยนต์ FullHD ได้ถึง 4 เรื่องด้วยกัน
ขาตั้ง (Metal stand) ที่ช่วยทำให้เราสามารถตั้งเครื่องได้อย่างมั่นคงในทุกๆที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ที่ตั้งสามขา และเมื่อหมุนขาตั้งเพื่อเปิด/ปิด เลนส์จะทำให้เครื่องโปรเจคเตอร์เปิด/ปิดการทำงานโดยอัตโนมัติทันที อีกทั้งยังเป็นฝาครอบเลนส์ไปในตัว เพื่อป้องกันเลนส์ไม่ให้เกิดความเสียหายเมื่อทำการเคลื่อนย้ายอีกด้วยนะ สะดวก ครบครันสุดๆ
ถึงแม้จะไม่ง้อขาตั้งสามขาแต่ทาง Viewsonic M1 ก็ยังออกแบบรูแบบเดียวกันกับตัวล็อคขาตั้งกล้อง มาให้ด้วยนะ โดยจะอยู่ทางด้านใต้ของตัวเครื่อง ใช้ได้กับขาตั้งกล้องทุกประเภท
สำหรับการปรับโฟกัสภาพ ก็สามารถหมุนได้ที่วงแหวน ที่อยู่ทางด้านข้างของตัวเครื่อง
และด้านหลังของตัวเครื่องจะมีปุ่มการใช้งานต่างๆอยู่ 4 ปุ่มก็คือ ปุ่ม Power เอาไว้เปิด/ปิดเครื่อง, ปุ่ม -/+ เพิ่มเสียง-ลดเสียง, ปุ่มย้อนกลับ มีไฟแสดงโชว์ค่าสถานะของแบตเตอรี่(Battery indicator light) ว่าเรามีแบตเหลืออยู่ประมาณเท่าไหร่ อย่างเช่นมี 5 ดวงก็เท่ากับมีแบต 100% เหลือ 1 ดวงก็เท่ากับ 20% ครับ
Spec
Brightness(ANSI lumens) : 250 ANSI Lumens
Light Source : LED
Contrast : 120,000:1
Resolution : 854×480 (WVGA)
Display Color : 1.07 Billion
Lens : F=1.7, f=5.5mm
Throw Ratio : 1.2
Throw Distance : 38″ @1m
Display Size (Inch) : 24 – 100″
Keystone : Vertical (± 40º)
Lamp Life : 30,000
Port
ในส่วนของบริเวณด้านข้างของตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ จะมีแผงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมีพอร์ทการเชื่อมต่อมาให้ทั้งหมด 6 พอร์ทการเชื่อมต่อด้วยกัน สามารถใช้ Micro SD ในการเปิดแสดงไฟล์ต่างๆได้ทันทีพร้อมกับมีพอร์ท USB Type-A(5V1A) ช่วยให้คุณสามารถเล่นภาพวิดีโอ ไฟล์งานคอนเทนต์ต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ PC และเป็นช่องเสียบของอุปกรณ์ Wireless Module เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานแบบไร้สายได้, DC Power 19V มีช่อง USB Type-C สามารถส่งข้อมูลวิดีโอ ถ่ายโอนข้อมูลจากมือถือหรือแท็ปเล็ตไปที่ตัวโปรเจคเตอรืได้ทันที HDMI 1.4 สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์ PC,Notebook,Mac ได้สัญญาณทั้งภาพและเสียงรองรับสัญญาณ 1080p และพอร์ตอันสุดท้ายก็คือ Mini Jack 3.5mm รองรับการใช้งานร่วมกับลำโพงหรือเครื่องขยายเสียงอื่นๆ
harman/kardon Speaker Built-in
ลำโพงคู่ Harman/kardon ให้ระดับเสียงสูงสุดที่ก้องกังวาน 360 องศา เสียงดังทั่วห้อง มีความสมดุลกึ่งกลางและเสียงเบสที่มีพลังเพื่อให้คุณมีประสบการณ์ในการดื่มด่ำความบันเทิงเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์, มิวสิควิดีโอหรือฟังคอนเสิร์ต
Remote Control
มีรีโมทคอนโทรลสำหรับควบคุมคำสั่งจากระยะไกลมาให้ด้วยครับ ขนาดกระทัดรัด จับถนัดมือ มีปุ่มฟังก์ชั่นลัดสำหรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานต่างๆ ปุ่มเมนูตั้งค่า ,เพิ่มเสียง/ลดเสียง, ปรับตั้งค่า Keystone, play and pause etc.
Feature
ฉายภาพขนาด 100” จากระยะทางที่ห่างเพียง 2.6 เมตร ด้วยอัตราส่วนระยะฉายภาพสั้นของ M1 เหมาะสมที่สุดสำหรับการฉายภาพขนาดใหญ่ในพื้นที่ขนาดเล็ก
AdvancedLED Light Source โปรเจคเตอร์นี้ใช้เทคโนโลยี LED แบบ solid-state รุ่นล่าสุด ที่ปราศจากสารปรอท ,หลอดฉาย,ไส้กรอง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และแหล่งกำเนิดแสงแบบ LED ให้การใช้งานได้นานถึง 30,000 ชั่วโมง*
การฉายภาพในทุกทิศทาง 360°องศา ช่วยให้ตั้งโปรเจคเตอร์ในตำแหน่งต่างๆได้เกือบทุกมุมของห้อง สามารถฉายภาพได้ทั้งบนเพดาน ผนัง บนพื้นหรือที่ใดก็ตามที่เราต้องการ สะดวกสบายใช้งานง่าย
วิวโซนิคเพิ่มปัจจัยด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งาน Viewsonic M1โดยมีคุณสมบัติการปกป้องสายตา Eye Protecjtion ซึ่งเครื่องจะตัดไฟที่ส่งไปยังลำแสงฉายภาพโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบว่าวัตถุหรือคนอยู่ใกล้กับเลนส์มากเกินไปต้องห่างจากเลนส์อย่างน้อย 30 ซม.
สตรีมมิ่งจาก Dongle HDMI แบบไร้สาย เปลี่ยน Viewsonic M1 ให้เป็นโปรเจคเตอร์ไร้สาย โดยเชื่อมต่อกับ Wireless Dongle อาทิเช่น Google Cast, Amazon Fire TV Stick (Dongle ต้องซื้อแยกนะจ๊ะ) โดยจะช่วยให้คุณสามารถแสดงภาพและวิดีโอต่างๆ จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณรวมทั้งแบ่งปันภาพและวิดีโอได้ในทุกๆที่
บอกลาภาพที่ผิดเพี้ยนด้วยระบบ การแก้ไขภาพสี่เหลี่ยมคางหมูแนวตั้งโดยอัตโนมัติ (Auto keystone) สามารถฉายภาพที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบได้ทุกๆมุม ช่วยขจัดภาพที่คดเคี้ยวและบิดเบี้ยวให้ภาพที่สมจริงที่สุดทุกครั้งที่ฉาย
Picture
Viewsonic M1 มี Native Solution อยู่ที่ 854×480 (WVGA) แต่สามารถรองรับไฟล์ความละเอียดแบบ FULL HD (1920 x 1080) 1080p ได้สบายๆ มีอัตราส่วนภาพ 16:9 (แต่ก็รองรับอัตราส่วนแบบ 4:3) โดยจะปรับเปลี่ยนการแสดงผลโดยอัตโนมัติ ฉายภาพได้ขนาดใหญ่สูงสุด 24”-100” ระยะฉายภาพสั้น (short-throw) สามารถแสดงภาพขนาดใหญ่ได้ในพื้นที่ขนาดเล็ก และมีค่าความสว่างอยู่ที่ 250 Lumens สามารถนำไปใช้ในฉายในห้องนอน,ห้องนั่งเล่น ฉายขึ้นเพดานนอนดูหนังสบายๆในทุกๆวัน หรือ พกพาออกไปแคมปิ้งได้สบายๆ
ความคมชัด(Contrast) ที่มากถึง 120,000:1 ทำให้ภาพนั่นมีความคมชัด ลื่นไหล ไล่แสงและเงาในภาพได้สวย มองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ
ต้องขอโทษด้วยนะครับสำหรับภาพที่ผมถ่าย อาจจะไม่สามารถบอกความสามารถจริงๆของ Viewsonic M1 เครื่องนี้ได้แบบเต็ม 100% ครับ เพราะผมเป็นคนถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง (T_T กระซิกๆ)
แต่ผมอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆแวะไปรับชมภาพจากของจริงซะมากกว่า เพราะภาพที่ได้นั้นสวยกว่าที่ผมถ่ายแน่นอนเพราะหลังจากเขียนรีวิวเสร็จแล้ว ในใจผมนี่อยากได้ไว้เองเลยนะครับเนี่ย “อาเฮียร้านโปรเจคเตอร์โปรครับ ผมขอสักเครื่องได้มั้ยครับ” (ฮ่าๆ)
Viewsonic M1 ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เปิดฉายภาพได้ทุกที่ฉายลงข้างกำแพง เพดาน ได้ภาพใหญ่สะใจโดยไม่ต้องง้อ TV LCD จอใหญ่ราคาแพงๆ อีกทั้งยังรองรับคอนทนต์ไฟล์แบบ 3D อีกด้วยครับ
เปิดฉายใส่เพดาน นอนดูหนังเพลินๆ
กลับมาที่รีวิวกันต่อดีกว่าครับ ก่อนจะออกทะเลไปมากกว่านี้ ฮ่าๆ Viewsonic M1 มาพร้อมกับโหมดภาพที่ให้เราได้เลือกใช้งาน ได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Brightest = โหมดนี้จะช่วยเพิ่มค่าแสงสว่างให้กับภาพช่วยในกรณีที่ สถานที่ฉายนั้นไม่สามารถที่จะควบคุมแสงได้ 100%, Standard = โหมดปกติธรรมดาที่ทางโรงงาน Setup ค่ามาให้เรียบร้อย, Theater = ระบบจะทำการ Optimizes ในเรื่องของภาพให้เหมาะกับเนื้อหาภาพยนต์มากยิ่งขึ้นครับ, Music = โดยโหมดนี้จะปรับตั้งค่า การรับชมการแสดงดนตรี ให้ทั้งภาพ และเสียงเสมือนเราไปยืนอยู่ติดขอบเวทีกันเลยทีเดียวครับ ว่าไปนั่น!!
สามารถตั้งค่าเมนูต่างๆ ได้โดยกดที่รูป ฟันเฟืองบนรีโมท ครับ มีทั้งการปรับตั้งค่าภาพ Image Settings, Display Mode โหมดการฉายภาพแบบต่างๆ, Language ภาษาภายในเครื่อง มีภาษาไทยให้เลือกด้วยนะ, Harman Kardon การตั้งค่าเสียง, light Source Mode สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ระบบการทำงาน Battery การฉายภาพไหนแบบ Full Eco mode หรือว่า Battery Saving, Reset Settings การตั้งค่าต่างๆให้กลับเป็นของโรงงานทั้งหมด, Eye Protection สามารถเลือกได้ว่าจะเปิด/ปิด ระบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยจากการ ได้รับแสงจากตัวเครื่องโดยตรงเมื่อเข้าใกล้เลนส์มากจนเกินไปและจะเปลี่ยนเป็นภาพว่าเปล่าโดยอัตโนมัติทันที
What’s in the box
อุปกรณ์ที่มาในกล่องจะมี ตัวเครื่อง Projector Viewsonic M1, AC Power Cord, AC Power Adapter, USB-C Cable (1M), Remote Control (with batteries), Soft Carrying Bag, Quick Start Guide
สรุป
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงาม ตามท้องเรื่อง งามมาก
– พกพาสะดวก แบตเตอรี่ในตัวฉายได้นาน 6 ชั่วโมง ขนาดเล็กกระทัดรัด
– ประสิทธิภาพ ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ ภาพสวยคมชัดรองรับไฟล์ระดับ Full HD
– มีลำโพง Harman Kardon สุดเจ๋ง ที่ให้เสียงดังฟังชัดทั่วทั้งห้อง มาให้ถึง 2 ตัว ในเครื่องเดียว
– มีพอร์ทการเชื่อมต่อ ที่เรียกได้ว่า ครบครันจริงๆ ครับสำหรับ Mini projector แบบพกพา
– สามารถเชื่อมต่อกับมือถือและแท็บเล็ตได้ได้ผ่านช่อง USB Type-C เพื่อเปิดภาพ คอนเทนต์ได้ทันที สะดวกใช้งานง่าย
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่ หรือ หลอดฉายที่มากถึง 30,000 Hr.
– ราคาซึ่งถือว่าถูกมากถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่ M1 ทำได้
ข้อสังเกต
– ห้องที่มีแสงสว่างจัดๆ รอบด้าน เจ้าตัว Viewsonic M1 อาจจะสู้ไม่ไหวครับ แต่ถ้าห้องมืดสนิท หรือกลางแจ้งในตอนกลางคืน ก็ไม่กลัวถึงไหนถึงกันแน่นอนครับ
by TOFU
สนใจสั่งซื้อ Projector Viewsonic M1 ได้ที่ https://www.projectorpro.online/product/projector/projector-viewsonic-m1/