Skip to content

HDMI คืออะไร มีกี่ประเภท สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อะไรบ้าง

HDMI คืออะไร มีกี่ประเภท สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อะไรบ้าง

หากพูดถึงการส่งสัญญาณภาพและเสียงคุณภาพสูงในปัจจุบัน HDMI คือมาตรฐานการเชื่อมต่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยจุดเด่นที่สามารถส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียงผ่านสายเพียงเส้นเดียว พร้อมรองรับความละเอียดระดับ 4K และ 8K ทำให้ HDMI กลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์มัลติมีเดียในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม หรือระบบโฮมเธียเตอร์ 

HDMI คืออะไร 

HDMI คือ มาตรฐานการเชื่อมต่อระบบมัลติมีเดียความละเอียดสูง ย่อมาจาก High-Definition Multimedia Interface ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง Hitachi, Matsushita และ Sony เพื่อทดแทนพอร์ตแบบ Analog อย่าง VGA และ DVI ที่มีข้อจำกัดในการใช้งาน HDMI คือ นวัตกรรมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 ด้วยเวอร์ชั่น 1.0 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงเวอร์ชั่นล่าสุด 2.1a ในปี 2022 โดยสามารถส่งทั้งสัญญาณภาพและเสียงแบบดิจิทัลโดยไม่มีการบีบอัดข้อมูล 

HDMI ทีกี่ประเภท 

HDMI คือ มาตรฐานการเชื่อมต่อที่มีหลากหลายรูปแบบ แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน มาทำความรู้จักกับประเภทต่าง ๆ กัน 

1. Type A 

พอร์ตมาตรฐานที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด คือ Type A โดยมีขนาด 13.9mm x 4.45mm มาพร้อมพิน 19 เข็ม เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดและถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น จอคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ HDMI คือพอร์ตที่ถือเป็นมาตรฐานหลักที่ผู้ผลิตอุปกรณ์เลือกใช้เนื่องจากมีความเสถียรและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย 

2. Type C 

สำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก Type C หรือ Mini HDMI คือพอร์ตการเชื่อมต่อที่ได้มาตรฐานและยังคงประสิทธิภาพเทียบเท่า Type A ด้วยจำนวนพิน 19 เข็มเท่ากัน จึงนิยมใช้กับอุปกรณ์พกพา เช่น กล้องถ่ายรูป แท็บเล็ตหรือ GPS โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Type A ได้ผ่าน Converter 

Type C

3. Type D  

การพัฒนาพอร์ตให้มีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่องนำมาสู่ Type D หรือ Micro HDMI ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดเพียง 6.4mm x 2.8mm แต่ยังคงเป็น HDMI มาตรฐานที่ยังคงมีพิน 19 เข็มเช่นเดิม โดยถูกพัฒนาและออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความบางพิเศษ เช่น สมาร์ทโฟนและกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก โดยยังคงคุณสมบัติการใช้งานเทียบเท่ารุ่นอื่น ๆ  

4. Type E 

ในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ Type E ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยมาตรฐานที่มีระบบล็อกพิเศษเพื่อป้องกันการหลุดจากแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ พร้อมกรอบป้องกันฝุ่นและความชื้น เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ   

HDMI สามารถใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์อะไรได้บ้าง 

  • จอคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รวมถึงแล็ปท็อป 
  • โทรทัศน์และจอภาพต่าง ๆ ที่ต้องการคุณภาพการแสดงผลระดับ HD หรือสูงกว่า
  • โปรเจคเตอร์ฉายผนัง หรือโฮมโปรเจคเอร์ สำหรับความบันเทิงระดับโรงภาพยนตร์
  • ระบบเสียง Soundbar และอุปกรณ์เครื่องเสียงคุณภาพสูง
  • เครื่องเล่น DVD, Blu-ray และกล่องรับสัญญาณดาวเทียม
  • สมาร์ทโฟน กล้องดิจิทัลและกล้องวิดีโอที่รองรับการเชื่อมต่อ HDMI
  • เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นต่าง ๆ 

ข้อดีของ HDMI

ข้อดีของ HDMI คือสามารถส่งสัญญาณภาพคุณภาพสูงสุดตามข้อมูลจริง รองรับการสื่อสารแบบสองทาง ทำให้อุปกรณ์สามารถกำหนดค่าได้โดยอัตโนมัติ สัญญาณมีความเสถียร ไม่มีการขาดหาย ทำให้การแสดงผลต่อเนื่อง รองรับระบบเสียงคุณภาพสูงทั้ง Dolby, DTS และ HD Audio มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดถึง 100 Mbps ทั้งสองทิศทาง โดยใช้สายเพียงเส้นเดียวสำหรับทั้งภาพและเสียง ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง

นอกจากนี้ยังมีระบบเข้ารหัสสัญญาณดิจิทัล เพื่อความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูล ติดตั้งง่ายแบบ Plug-and-play ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เพิ่มเติม รองรับความลึกของสีสูงสุดถึง 48 บิต สำหรับภาพที่สมจริง  

ข้อเสียของ HDMI 

  • ราคาสายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสาย Analog แบบเดิม
  • มีข้อจำกัดด้านความยาวสาย โดย Standard Cable ยาวได้สูงสุด 35 เมตร และ High-Speed Cable ยาวได้เพียง 10 เมตร
  • อุปกรณ์รุ่นเก่าอาจไม่รองรับการทำงานแบบ Plug-and-play  
ข้อดีของ HDMI

สรุป 

การเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงผ่านพอร์ต HDMI ได้กลายเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยจุดเด่นที่สามารถส่งข้อมูลผ่านสายเพียงเส้นเดียว พร้อมรองรับความละเอียดสูงและระบบเสียงคุณภาพเยี่ยม HDMI มีให้เลือกหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบแบบเก่า ทำให้ HDMI คืออุปกรณ์ที่มีการใช้งานอย่างหลากหลายในปัจจุบัน